Alexis Mac Allister อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ประวัติกองกลาง แชมป์โลก ห้องเครื่องคนเก่ง จาก ไบรท์ตัน

Alexis Mac Allister (อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์) ว่าที่นักเตะคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล เขาเกิดและเติบโตขึ้นในประเทศ อาเจนติน่า ซึ่งความเป็นจริงแล้วเขามีเชื้อสายเป็นชาวไอริส แต่ด้วยเหตุที่ครอบครัวของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นั้นได้อพยพมาอยู่ที่ดินแดน ฟ้า-ขาว ตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขานั้นฝังใจและเชื่อมั่นว่าตัวเองคือชาวอาร์เจนไตน์ 100% นั่นเอง แม็ค อัลลิสเตอร์ เกิดขึ้นมาในครอบครัวของนักกีฬาอย่างแท้จริง โดยพ่อของเขานั้นก็เคยเป็นนักฟุตบอลแถมยังเคยมีโอกาสได้ร่วมเล่นกับ ดิเอโก้ มาราโดน่า ที่สโมสร โบคา จูเนียร์ส มาแล้ว นั่นจึงเป็นฝันแรกและฝันเดียวในตัวเขาที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพตามรอยของคุณพ่อนั่นเอง

ประวัติของ Alexis Mac Allister (อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์)

ชื่อ : Alexis Mac Allister (อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์)

เกิดวันที่ : 24 ธันวาคม 1998

สถานที่ : Santa Rosa, La Pampa, Argentina

ส่วนสูง : 174 เซนติเมตร

ตำแหน่ง : กองกลาง, มิดฟิลด์

Alexis Mac Allister เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งที่ อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางนักฟุตบอลกับสโมสรในประเทศบ้านเกิดอย่างทีม อาร์เจนติโนส จูเนียร์สโดยเขาได้เข้าร่วมในสโมสรนี้กับพี่น้องอีกสองคนคือ เควิน และ ฟรานซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีความโดดเด่นมากว่าเด็กคนอื่นๆ ในรุ่นด้วยกัน ทั้งในเรื่องของ ทักษะ การอ่านเกม หรือเรื่องความกล้าในการตัดสินใจ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ขยันฝึกซ้อมเป็นอย่างมาก และได้ลงเล่นให้กับทีมเยาวชนของ อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส มาจนถึงปี 2016 เขาก็ถูกเรียกให้ก้าวขึ้นไปฝึกซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ของสโมสร หลังจากนั้นไม่นานสต๊าฟโค้ชก็เริ่มให้โอกาสเขาได้ลงสนาม และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเขาสามารถสร้างสถิติของตัวเองได้อย่างสวยหรูด้วยการลงสนาม 83 นัด ยิง12 ประตู และจ่ายไปอีก 9 แอสซิสต์ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดูโดดเด่นและร้อนแรงขนาดนี้ ทำให้สโมสร ไบรท์ตัน ไม่รอช้ารีบดำเนินการยื่นข้อเสนอคว้าตัวเขามาร่วมทีมในช่วงตลาด ซื้อ-ขาย เดือนมกราคม เมื่อปี 2019

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Mac Allister ได้ตกลงย้ายซบ ไบรท์ตัน เรียบร้อยแล้ว เขาก็ถูกส่งตัวกลับมาที่สโมสร อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เขากลับมาในฐานะนักเตะที่ถูกยืมตัวมาใช้งาน และหลังจากนั้นไม่นานฟอร์มการเล่นที่สุดจะแข็งแกร่งของเขานั้นก็ไปเข้าตาสโมสร โบคา จูเนียร์ส จึงทำให้เจ้าตัวต้องอยู่เสริมกระดูกที่ อาเจนติน่า หนึ่งฤดูกาล

เสริมแกร่ง เก็บประสบการณ์กับ โบคา จูเนียร์ส

หลังจากที่จบภารกิจจากการถูกส่งตัวไปเก็บประสบการณ์กับต้นสังกัดเก่าอย่าง อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส มาแล้วนั้น อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็ได้รับความสนใจจาก โบคา จูเนียร์ส อีกครั้ง พร้อมทั้งให้สัญญาว่าจะส่งแข้งรายนี้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ ไบรท์ตัน ยอมปล่อยตัวเขามาเก็บประสบการณ์ในลีก Argentina อีกหนึ่งปีเต็ม และด้วยสไตล์การเล่นที่กล้าเล่น กล้าเลี้ยง กล้าจ่ายบอล จนสามารถสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้หลายครั้ง ทำประตูได้อย่างมากมาย แถมยังเข้าสกัดบอลจากแข้งระดับโลกได้อย่างมากมาย Mac Allister จึงถือเป็นดาวรุ่งอีกหนึ่งคนของ อาร์เจนไตน์ ที่มีผลงานโดดเด่นด้วยการลงสนามไป 13 นัด ทำได้ 1 ประตู ซึ่งเป็นผลงานที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะถูกส่งตัวกลับมาเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่อย่างจริงจังกับต้นสังกัดอย่าง ไบรท์ตัน ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของฤดูกาล 2019-2020

เสริมแดนกลาง สร้างความสำเร็จที่ ไบรท์ตัน

Mac Allister ย้ายกลับมาเล่นให้กับ ไบรท์ตัน ในช่วงของครึ่งฤดูกาลหลังของซีซั่น 2019-2020 เขาได้รับโอกาสในการลงสนามในทันที ถึงแม้จะไม่เป็นที่เข้าตาของแฟนบอลมากเท่าที่ควรแต่เจ้าตัวก็ทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ พยายามหมั่นฝึกซ้อมอย่างหนักจนมีพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น จนในที่สุดเขาก็เข้าถึงศาสตร์ของฟุตบอลในประเทศอังกฤษและสามารถจับทางบอลของผู้เล่นในทีมต่างๆ ได้ จนสุดท้ายแล้วฟอร์มการเล่นของเขาก็เข้าไปสะดุดตาทีมงานแมวมองของทีมชาติอาเจนติน่า ทำให้ Mac Allister มีรายชื่อก้าวขึ้นไปติดทีมชาติในฝึกฟุตบอลโลกปี 2022 ทันที และในทัวร์นาเมนต์นี้เขาก็สามารถแจ้งเกิดขึ้นมาและเป็นแรงหนุนให้ ทัพฟ้าขาว ก้าวไปคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จ

และพอกลับมาจากทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก FIFA World Cup 2022 นั่นเอง Mac Allister ก็เริ่มเป็นที่จับตามองแถมยังได้รับโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง เขาสามารถต่อบอลกับเพื่อนร่วมทีมได้มากยิ่งขึ้น และยังหาจังหวะในการทำประตูจากระยะไกลได้อย่างบ่อยครั้ง จนในที่สุดเขาก็ก้าวขึ้นมากลายเป็นกำลังหลักของสโมสร ไบรท์ตัน ในที่สุด และนอกจากนี้ในฤดูกาล 2022-2023 นั้นเขายังมีส่วนสำคัญในการช่วยพาให้สโมสรได้คว้าตั๋วไปเล่นในศึกฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปได้เป็นครั้งแรก นับเป็นความสำเร็จที่ Mac Allister สามารถทำขึ้นมาร่วมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม

สร้างความยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์ World Cup กับทีมชาติ อาเจนติน่า

แม้จะไม่ใช่ขาประจำในการติดทีมชาติสักเท่าไหร่แต่ด้วยความที่เขาได้รับโอกาสในการลงสนามจากกุนซือคนเก่งของ ไบรท์ตัน ทำให้ฟอร์มของ Mac Allister เริ่มโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วงกลางปี 2022 ในการประกาศรายชื่อผู้เล่นที่ติดทีมชาติในทัวร์นาเมนต์ FIFA World Cup 2022 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็มีชื่อเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้ไปสู้ศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์ โดยเขาได้รับเลือกให้ลงเล่นเป็นตัวจริงไปทั้งหมด 6 นัด และทำได้อีก 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ซึ่งเขาถือเป็นอีกหนึ่งแข้งที่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่พาทีมชาติอาเจนติน่าคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ โดย อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวจากการลงเล่นใน ฟุตบอลโลก 2022 อย่างแท้จริง เพราะในสนามทั้งเขามีฟอร์มการเล่นที่ดุเดือดและร้อนแรงเป็นอย่างมาก แถมยังสามารถสร้างสรรค์โอกาสให้กับทั้ง ลิโอเนล เมสซี่ และนักตะคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังคอยปัดกวาดไม่ให้ผู้เล่นคู่แข่งผ่านเข้าไปทำประตูได้อีกด้วย

ว่าที่นักเตะใหม่ของหงส์แดง ลิเวอร์พูล

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2023 ได้มีแถลงการณ์ออกมาจากทางสโมสร ไบรท์ตัน และ ลิเวอร์พูล ถึงในเรื่องของความสนใจที่ ทัพหงส์แดง มีความต้องการจะดึงตัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เข้ามาร่วมทีม ทั้งนี้ทางด้านของ ฟาบริซิโอ โรมาโน เหยี่ยวข่าวชื่อดังสายฟุตบอลได้ออกมารายงานอีกหนึ่งเสียงว่าทางด้านสโมสร ลิเวอร์พูล นั้นได้บรรลุข้อตกลงกับทางต้นสังกัดของดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า Mac Allister จะมีค่าสู้ถึง 45-50 ล้านปอนด์ หรือ 1,935-2,150 ล้านบาท ซึ่งในเวลานี้นักเตะได้เข้ารับการตรวจร่างกายกับทางสโมสรเรียบร้อยแล้ว และจะเซ็นสัญญาพร้อมชูเสื้ออย่างเป็นทางการในอีกไม่นานนี้แล้ว

เกียรติประวัติ Alexis Mac Allister

สโมสร อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส

• อาร์เจนตินา พรีเมียร่า บี : 2016–2017

สโมสร โบคา จูเนียร์ส

• อาร์เจนตินา พรีเมียร่า ดิวิชั่น : 2019–2020

ทีมชาติอาร์เจนตินา

• CONMEBOL พรีโอลิมปิก ทัวร์นาเมนต์ : 2020
• CONMEBOL ยูฟ่าคัพออฟแชมเปียนส์ : 2022
• ฟุตบอลโลก : 2022